เคล็ดไม่ลับ สำหรับการทานอาหารเจ แบบสุขภาพดี

เมื่อเข้าสู่เทศกาลกินเจ หลายๆท่านตั้งใจ ถือศีล กินเจ ตลอดระยะเวลา 9 วัน 9 คืน ซึ่งวัตถุประสงค์ในการกินเจอาจแตกต่างกันออกไป บางท่านอาจทานเพื่อจิตเมตตา ละเว้นการเบียดเบียนชีวิต บางท่านอาจทานเพื่อละเว้นกรรม บางท่านอาจทานเพื่อสุขภาพ แต่ไม่ว่าจะทานเจด้วยวัตถุประสงค์ใดก็ตาม สิ่งสำคัญที่ควรคำนึง คือ การทานอาหารที่ สะอาด ปลอดภัย และดีต่อสุขภาพของผู้ทาน และด้วยการทานเจ คือ การละเว้นการทานเนื้อสัตว์ ดังนั้น ในช่วงระยะเวลาของการทานเจ นอกจากมีความเสี่ยงต่อการได้รับโปรตีนไม่เพียงพอ ก็ยังเสี่ยงในการได้รับพลังงานคาร์โบไฮเดรต และไขมัน ไม่เหมาะสม อีกด้วย วันนี้มีเคล็ดลับการทานอาหารเจ แบบสุขภาพดี โดยการทานแบบ 2:1:1 สูตรเด็ดพิชิตพุง และ 6:6:1 สูตรรสกลมกล่อมห่างไกลโรค

รูปแบบการรับประทานอาหาร แบบ 2:1:1 นอกจากจะสามารถใช้ในการทานอาหารแบบปกติแล้วนั้น ยังสามารถนำมาปรับใช้ในช่วงเวลาทานอาหารเจได้อีกด้วย โดยแบ่งจานข้าว (ขนาด 9 นิ้ว)ออกเป็น 4 ส่วน ใน 2 ส่วนเป็นอาหารที่ให้ใยอาหาร วิตามิน เกลือแร่ ได้แก่ ผัก และ ผลไม้ อีก 1 ส่วนเป็นอาหารที่ให้คาร์โบไฮเดรต คือ ข้าว แป้ง เน้นเป็นข้าวกล้อง, ข้าวขัดสีน้อย หรือ ขนมปังโฮลวีท อีก 1 ส่วน เป็นอาหารที่ให้โปรตีน คือ ถั่วเมล็ดแห้ง และผลิตภัณฑ์จากถั่ว เช่น ฟองเต้าหู้ โปรตีนเกษตร และถั่วเมล็ดแห้งทุกชนิด

ทั้งนี้ ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่เลียนแบบเนื้อสัตว์ ที่นำแป้งสาลีมาแปรรูปให้คล้ายเนื้อสัตว์ เพราะจะทำให้ได้รับคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีปริมาณโซเดียม ทั้งจากเครื่องปรุงรสและอาหารที่มีโซเดียมแฝง  สำหรับวิธีการประกอบอาหารควรเน้น นึ่ง ต้ม ตุ๋น แกง ยำ เพื่อหลีกเลี่ยงไขมัน  ซึ่งปริมาณไขมัน ที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน ไม่ควรเกิน 6 ช้อนชา น้ำตาล ไม่เกิน 6 ช้อนชา และเกลือ ไม่เกิน 1 ช้อนชา (โซเดียม 2,000 มิลลิกรัม) หรือที่เรียกว่า 6:6:1 สูตรรสกลมกล่อมห่างไกลโรค

รูปภาพโดย : https://www.posttoday.com/life/healthy/477140

เขียนโดย  อเมริกาโน่คั่วกลาง

ติดตามบทความอื่นๆ ได้ที่ https://w2.med.cmu.ac.th/suandok-variety/