มันเทศสีม่วงกับฤดูหนาวที่ทุกคนไม่ควรพลาด

สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่านอากาศช่วงนี้ช่างหนาวเย็นยิ่งนัก หลายๆคนอาจจะถือเอาช่วงเวลานี้ออกเดินทางไปท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสบรรยากาศที่หนาวเย็นบนดอยสูงต่างๆ หรือบางคนที่ไม่ค่อยได้ออกไปไหนก็เก็บตัวอยู่ในบ้านอย่างผมที่ไม่อยากออกไปผจญกับรถติด ผู้คนมากมายในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แย่งกันกินกันเที่ยวถ่ายรูปออกมาก็มีแต่ผู้คนมากมายกันเลยทีเดียว และเวลาที่เราออกไปเที่ยวตามดอยสูงเพื่อสัมผัสอากาศที่หนาวเย็นอาหารริมทางก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทุกคนไม่ค่อยพลาดที่จะจับจ่ายซื้อมารับประทานกัน

วันนี้ผมจะขอแนะนำมันเทศเผาหรือมันเทศนึ่งที่จะช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับเราตอนเที่ยวได้ฟินกับรสชาติที่หอมหวานและช่วยให้อุ่นในสภาวะที่เย็นแบบนี้ก็เป็นทางเลือกนึ่งที่พลาดไม่ได้เลย แต่ถ้าคนที่อยู่บ้านนอนห่มผ้าอยู่อย่างผมละจะทำอย่างไรดี ผมก็มีวิธีฟินๆจากมันเทศนึ่งร้อนๆโดยที่เราไม่ต้องออกไปหาซื้อจากนอกบ้านหรือต้องไปหาซื้อแถวดอยสูงต่างๆ คือวันก่อนผมได้ไปซื้อของที่แม็คโครและได้เจอกับมันเทศสีม่วงญี่ปุ่นที่วางขายอยู่น่ากินมากผมเลยซื้อมาเพื่อที่จะนึ่งกินให้เข้ากับบรรยากาศช่วงนี้ แต่ประเด็นคือไม่มีหม้อนึ่งจะทำอย่างไรละ ผมคิดว่าคนที่อยู่หอพักหรืออพาร์ทเม้นท์ คงต้องมีเครื่องไมโครเวฟติดห้องไว้สำหรับอุ่นอาหารกันนะครับ

วันนี้เลยอยากจะนะนำทริปการนึ่งมันเทศโดยใช้ไมโครเวฟเพื่อที่เราจะได้ฟินกับอากาศหนาวเย็นช่วงนี้มันช่างเข้ากันได้ดีเลยที่เดียวอยากแรกเลยเราต้องมีมันเทศก่อน และไมโครเวฟ  ล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อยแบะหาภาชระที่สามารถใช้กับไมโครเวฟได้พร้อมฝาปิด โดยเราจะสังเกตจากก้นภาชนะว่ามีสัญญาลักษณ์ตามรูปนี้ก็จะปลอดภัยจากสารพิษต่างๆได้แล้วหลังจากนั้นเราก็หามีดปลายแหลม  หรือไม้เสียบลูกชิ้นที่สะอาดมาจิ่มมันเทศของเราให้เป็นรูพอทั่ว  เพื่อที่จะให้ความร้อนทั่วถึงและสามารถระบายออกไปได้ดี แล้วปิดฝาของภาชนะ  แต่อย่าปิดสนิดนะครับเดี่ยวไอน้ำมันระอุและจะดันฝาระเบิดออกได้ เสร็จแล้วนำเข้าไมโครเวฟแล้วใช้ไฟแรงปานกลาง (350 วัตต์)ในการนึ่งประมาณ  4-5  นาทีก็พอแล้วเพิ่มความร้อนเป็นไฟแรงสูงสุดอีก 2-3 นาที  เราก็จะได้มันเทศนึ่งร้อนๆ รับประทานพร้อมกับชาร้อนๆในอากาศหนาวๆแบบนี้แล้วละครับ

แต่หลายคนสงสัยว่าทำไมผมถึงเอามันเทศนึ่งมาแนะนำก็เพราะว่ามันเทศมีประโยชน์มากมายเลยที่เดียว โดยมันเทศสีม่วงสีสารที่ชื่อแอนโทไซยานิน (anthocyanin) เป็นสารที่ให้สีม่วงหรือที่เรียกว่า พฤกษเคมี และยังช่วยปกป้องผักผลไม้จากการทำลายของรังสีอัลตร้าไวโอเลต จึงทำให้มันม่วงมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่าผักสีอื่นๆ มันม่วงเป็นอาหารประเภทแป้งที่ให้พลังงานสูง ปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงาน 90 แคลอรี่ แต่อุดมไปด้วยใยอาหาร สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินและแร่ธาตุมากมาย เป็นแหล่งของวิตามินเอ ที่ช่วยบำรุงสายตาช่วยการมองเห็น เพิ่มความสามารถในการมองเห็นตอนกลางคืนหรือในที่แสงสว่างน้อย ตามัว ตาฝ้าฟาง และยังช่วยป้องกันเซลล์เยื่อบุต่าง ๆ ของร่างกายทำงานผิดปกติ ลดความเสื่อมของเซลล์ลูกตา ลดความเสี่ยงต่อการเป็นต้อกระจก ช่วยต้านมะเร็ง มันม่วงยังช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อว่า สารแอนโทไซยานิน ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งโรคร้ายแรงอย่างมะเร็ง ลดโอกาสเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคมะเร็งในช่องท้อง ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ มันเทศสีม่วงยังช่วยป้องกันเส้นเลือดอุดตันกับโรคหัวใจ ช่วยชะลอการเกิดเส้นเลือดในสมองอุดตัน และโรคหลอดเลือดหัวใจแข็งตัว ช่วยชะลอความแก่ และยังช่วยบำรุงผิว ชะลอความเสื่อมของเซลล์ทำให้ผิวพรรณเหี่ยวย่นช้าลงอีกด้วยนะครับ ทั้งนี้ยังช่วยบำรุงตับ โดยที่มันเทศสีม่วงมีฤทธิ์ป้องกันตับ ช่วยลดเอนไซม์ตับซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะตับอักเสบ ทั้งยังลดการก่อตัวของเนื้อเยื่อแผลในตับและยับยั้งความเสียหายของเซลล์ตับที่เกิดจากสารพิษต่างๆ เหมาะกับผู้สูงอายุมากเลยที่เดียว และนี่ก็เป็นทริปเล็กๆ ที่ผมนำมาฝากทุกท่านเพื่อให้ทุกท่านมีความสุขกับอากาศหนาวเย็นในช่วงฤดูนี้ และชะลอความแก่ได้ด้วยนะ

ถ้าใครอ่านแล้วรู้ถึงประโยชน์ของมันเทศสีม่วงแล้วก็อย่าลืมลองไปหามานึ่งรับประทานกันดูนะครับ   อ๋อแต่ก็อย่าทานเยอะกันจนเกินไปนะครับเพราะเดี๋ยวจะอ้วนได้  เราควรรู้จักรับประทานแต่พอควรนะครับ

 

  1. มันม่วงเป็นอาหารประเภทแป้งที่ให้พลังงานสูงปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงาน 90 แคลอรี่ มันเทศอุดมไปด้วย เส้นใยอาหาร สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินและแร่ธาตุมากมาย

  2. มันม่วงเป็นแหล่งของวิตามินเอจึงช่วยบำรุงสายตาช่วยการมองเห็น เพิ่มความสามารถในการมองเห็นตอนกลางคืนหรือในที่แสงสว่างน้อย ตามัว ตาฝ้าฟาง และยังช่วยป้องกันเซลล์เยื่อบุต่าง ๆ ของร่างกายทำงานผิดปกติ ลดความเสื่อมของเซลล์ลูกตา ลดความเสี่ยงต่อการเป็นต้อกระจก

  3. ต้านมะเร็งมันม่วงช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อว่า สารแอนโทไซยานิน ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งโรคร้ายแรงอย่างมะเร็ง ลดโอกาสเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคมะเร็งในช่องท้อง

  4. ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจมันเทศสีม่วงช่วยป้องกันเส้นเลือดอุดตันกับโรคหัวใจ ช่วยชะลอการเกิดเส้นเลือดในสมองอุดตัน และโรคหลอดเลือดหัวใจแข็งตัว

  5. ช่วยชะลอความแก่มันม่วงยีงช่วยบำรุงผิวชะลอความเสื่อมของเซลล์ทำให้ผิวพรรณเหี่ยวย่นช้าลงอีกด้วย

  6. ช่วยบำรุงตับมันเทศสีม่วงมีฤทธิ์ป้องกันตับ ช่วยลดเอนไซม์ตับซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะตับอักเสบ ทั้งยังลดการก่อตัวของเนื้อเยื่อแผลในตับและยับยั้งความเสียหายของเซลล์ตับที่เกิดจากสารพิษต่างๆ