ไม่เหมาะสำหรับท่านผู้อ่านที่อ่านเกิน 8 บรรทัดแล้วเกิดอาการ “แพ้ใจตัวเอง” นะครับ

มาอยู่เชียงใหม่ปีนี้เป็นปีที่ 32 (มากกว่าอยู่ที่จังหวัดน่าน) แต่สำเนียงของจังหวัดน่านก็ยังไม่เปลี่ยน เวลาไปคุยกับใครจะต้องถามว่า “ลุกไหนมา” Where do you come from? ประมาณนี้ เพราะว่า สำเนียงเนี่ยเปลี่ยนยากจริงๆ จะให้พูดม่วนเหมือนจาวเจียงใหม่ยากมาก แต่สิ่งที่หลายคนมักจะถามว่า “หนาวนี้ไปไหน?” “ไปที่นี่…มารึยัง?” ประมาณนี้นะครับ โชคดีที่ชอบอ่านหนังสือและอ่านอินเตอร์เน็ต (ไม่มีวิชาการ) ทำให้พอตอบได้บ้าง

แต่ก่อนเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบเที่ยวมาก เพราะรู้สึกขี้เกียจหรือว่าต้องทำงานวันหยุด แต่หลังจาก My mom passed away. พอมีเวลาว่าง และมุมมองชีวิตของตนเองเปลี่ยนไป พยายามไปในที่ต่างๆ ตามกำลังวังชาที่สามารถไปได้ และพยายามลดตัวตนของตนเองลง เพื่อเตรียมเกษียณอายุงานของตัวเอง

มีคนบอกว่าดอกเก็กฮวยของอำเภอสะเมิงสวยมาก เลยมีความคิดจะไปเที่ยว ตื่นเช้าวันเสาร์ กะว่าจะออกจากบ้านประมาณ 7 โมง เพราะเกรงอากาศจะร้อน แต่กว่าจะจัดการปลาและชายปั่นให้แล้วเสร็จ ก็ 8 โมง นิด ๆ กำปั่นก็ว่านอนสอนง่าย ให้กระดูก กินขนม แล้วไปนอนต่อ และแอบดูพฤติกรรมหมาผ่านกล้องวงจรปิด (ติดกล้องไม่ได้ดูคนแปลกหน้า แต่ใช้ดูหมา)

 

การเดินทางไปอำเภอสะเมิง ไปได้ 2 ทาง คือ ทางอำเภอแม่ริม หรือ ไปทางสี่แยกหนองควาย (Buffalo’s pond intersection หรือสี่แยกต้นเกว๋น แต่หากใช้ GPS ไปจะมีเสียงผู้หญิงสาวอ่านว่า สี่แยก ตัน-เก-วิน ทำให้เกิดภาวะเอ๋อ หากฟังเสียงนำทางสายนี้) ด้วยได้รับทราบข่าวจะมีการปิดสี่แยกต้นเกว๋นเพื่อทำทางลอดตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2562 เป็นต้นไป จึงได้ไปทางอุทยานหลวงราชพฤกษ์ เลี้ยวซ้ายทะลุไปถนนทางไปสะเมิง ซึ่งจะต้องผ่านอุทยานล้านนา กฤษดาดอย (แต่ก่อนใครมาเชียงใหม่แล้วไม่ได้มาแอ่วกฤษดาดอย ถือว่าเชยมาก ๆ ซึ่งเดี๋ยวนี้เปลี่ยนชื่อเป็น Floral creek ผ่านบ้านปลายดอย บ้านกลางดอย (เปลี่ยนชื่อไปแล้วเป็นภาษาอังกฤษ ผ่านบ้านหมุน ผ่านสวนบัวรีสอร์ท ผ่านเบลล์วิลล่า ผ่านร้านกาแฟ ร้านค้า วัด และป่าช้า บรรยากาศน่ารื่นรมย์มาก (บรรยากาศนะครับ ไม่ใช่ป้าช้า) อ้อ มีพี่แนะนำว่า หากทางสะดวก ให้ไปทางแม่ริม แต่หากรถไม่เยอะ ให้ไปทางสี่แยกต้นเกว๋น เลยตัดสินใจไปทางนี้ แต่หนทางค่อนข้างจะชัน Very Jing ทางค่อนข้างจะลาดชัน คดเคี้ยวไปมา turn left turn right up and down แต่ในชีวิตนี้เจอคนที่ใจคดเคี้ยวมากกว่าเส้นทางแบบนี้ก็ผ่านมาล่ะ กลัวอะไรกับเส้นทางแค่นี้

อ้อ การเดินทางใช้ GPS เพื่อป้องกันการหลง ดูระยะทางแล้วห่างจากบ้านแค่ 67 กิโลเมตร แต่ต้องใช้เวลาเดินทางมากกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง ขับไป กินบ๊วยไป จนถึงอำเภอสะเมิง ไปตามทางที่ GPS บอก แต่ขับรถเลยอำเภอสะเมิงไป ต้องระวังนิดหน่อย เพราะทางค่อนข้างแคบ เป้าหมายคือ “ไร่วังธาร ดอกเก็กฮวย” แต่มาเจอ “สวนคุณย่า น้องข้าวปั้น” ก่อน เป็นสวนดอกเก็กฮวยสีเหลือง ใช้ปุ๋ยคอกในการบำรุง ไปถึง 10 โมงครึ่ง แดดพอควร ฟ้าใส แต่ลมแรง เย็นๆ เป็นสวนที่ให้ชมฟรี ถ่ายรูปจนหนำใจแล้ว รู้สึกหิว โชคดีที่สวนนี้มีขายข้าวไข่เจียว จานละ 30 บาท โอ๊ย ได้เยอะมาก ทำให้ชายวัย 50 กินอิ่ม ตบท้ายด้วย น้ำดอกเก๊กฮวย ขวดละ 20 บาท 5 ขวด แถม 1 ขวด ด้วยความงก เลยซื้อมา 6 ขวด อ้อ สวนนี้ขายหญ้าหวาน (ซึ่งแทนน้ำตาลได้) มีหรือจะพลาดคนรวยอย่างเรา แต่ไม่ได้ซื้อเก๊กฮวยสีเหลืองมาชงดื่มนะครับ น้องเจ้าของร้านบอกว่า ปีหน้าจะปลูกเก็กฮวยสีขาว สลับกัน เลยแนะนำ(เผือก) ว่า น่าจะทำเป็นสีสลับกันในแต่ละแปลง น่าจะสวย

อ้อ (หลายอ้อแล้วนะครับ) ระหว่างทางมีดอกบัวตอง ดอกหญ้าสวย ๆ ให้ถ่ายรูปด้วยนะครับ แล้วแต่จะแวะหรือไม่แวะ อิ่มหนำสำราญ จะไปยังจุดหมาย แต่ก็ชาวบ้านบอกว่า ตอนนี้ดอกเก็กฮวยสีขาวของไร่หลายไร่ถูกเก็บไป เหลือแต่ที่สำหรับการถ่ายรูปสำหรับนักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ก็ไหน ๆ ก็ไหนๆ มาแล้วอย่าให้เสียเที่ยว ขับรถไปตาม GPS ซึงมีนักท่องเที่ยวเยอะเหมือนกัน ทั้งไทยและจีน อ้อ ค่าชมผู้ใหญ่คนละ 20 บาท สำหรับเด็กฟรี แดดไม่ร้อนมาก ลมเย็นๆ สำหรับไร่วังธาร โดยมากจะเป็นดอกเก็กฮวยสีขาว ที่นี่จำหน่ายก๋วยเตี๋ยวโดยมีภาชนะบรรจุคือกระบอกไม้ไผ่ผ่าซีก แต่ไม่ได้ทานเนื่องจากอิ่มมากจากข้าวไข่เจียว แต่ได้อุดหนุนน้ำเก็กฮวย แก้วละ 15 บาท ซึ่งบรรจุในกระบอกไม้ไผ่ (นำกลับมาใช้ใหม่) ถ่ายรูปจนคุ้มกับค่าเข้าสวน 20 บาท แต่ถึงกระนั้น นักท่องเที่ยวเวลาไปไหนก็ต้องอุดหนุน เพือให้ชาวบ้านมีรายได้ด้วยนะครับ (ตัวอย่างที่ดี) ได้เวลาเดินทางกลับบ้าน มาถึงบ้านประมาณ 4 โมงกว่า ๆ

ดอกเก็กฮวย มี 2 สี คือสีเหลือง และสีขาว ดอกสีขาวจะใหญ่กว่าสีเหลือง แต่สีเหลืองจะหอมกว่า กลิ่นของดอกเก็กฮวยจะคล้ายกับกลิ่นดอกเบญจมาศ หอมอ่อนๆ แต่ผมชอบสีเหลืองมากกว่า เพราะดูละลานตาดี

จอดถปุ๊บ ภาพที่เห็นคืออาการดีใจของกำปั่น เมื่อเปิดประตูรั้ว ชายปั่นก็นอนเอาหลังลงท่าทางดีใจอย่างที่สุดไม่ได้ เอาของไปเก็บในบ้าน มานั่งเปิดพัดลมให้ ชายปั่นก็เอาหัวมาหนุนตัก หมาเอ๋ยหมา ฉันทิ้งแกไม่ลงจริง ๆ