เมื่อได้รู้จักกับ USB แต่ละแบบได้แก่ USB Type-A, Type-B, Type-C และหัวเชื่อมต่ออื่นๆแล้ว อาจจะเกิดความเข้าใจว่า USB Type-C มีความเร็วสูงกว่า USB Type-A ซึ่งเป็นเรื่องที่ทั้งจริงและไม่จริงซะทีเดียว เพราะว่า นอกจากหัวเชื่อมต่อที่แตกต่างกันแล้ว หัวเชื่อมแต่ละหัวจะมีมาตรฐานรองรับในเรื่องของความเร็วในการจ่ายไฟและถ่ายโอนข้อมูลด้วยเช่นกัน ซึ่งมาตรฐานนี้มักจะเรียกกันเป็นตัวเลขเวอร์ชั่น เช่น USB 1.0 , USB 2.0 และ USB 3.0
ซึ่ง USB 1.0 นั้นสามารถพบได้บน USB Type-A และ B โดย 1.0 เป็นเวอร์ชั่นเก่าที่ไม่ค่อยได้พบเห็นได้ทั่วไปแล้ว ในส่วนของ USB 2.0 มักพบได้ทั่วไปทั้งในรูปแบบของ USB Type-A,Type-B และ Type-C เช่น เมาส์ คีย์บอร์ด หูฟัง ไมโครโฟน หรืออุปกรณ์ที่ไม่พึ่งพาความสามารถในการถ่ายโอนข้อมูลที่รวดเร็ว ซึ่งจะรองรับความเร็วสูงสุดประมาณ 480 Mbps และ USB 3.0 จะพบเห็นได้ทั่วไปบนอุปกรณ์ที่ต้องการถ่ายโอนข้อมูลที่รวดเร็ว เช่น ช่องเสียบ USB Type-A บนคอมพิวเตอร์ที่มีสีฟ้ากำกับให้เห็นอย่างชัดเจน ส่วน USB Type-C นั้นไม่มีจุดเด่นที่เห็นได้แบบคร่าวๆ ซึ่งต้องดูจากบรรจุภัณฑ์และข้อมูลผลิตภัณฑ์นั้นๆแทน USB 3.0 นี้รองรับความเร็วสูงสุดประมาณ 5Gbps
และจากนั้นได้มีการออก USB 3.1 และยังมี USB 3.1 Gen 1 , USB 3.1 Gen 2 และยังมี USB 3.2 1*1 , USB 3.2 1*2 มาให้จำอีกมากมาย โดยแต่ละเวอร์ชั่นแต่ละเจนจะมีความเร็วดังนี้
- USB 3.1 Gen 1 หรือ SuperSpeed USB มีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 5 Gbps
- USB 3.1 Gen 2หรือ SuperSpeed USB+ มีความเร็วสูงสุดที่ 10 Gbps
- USB 3.2 มีความเร็วสูงสุดที่ 20 Gbps และมีการแบ่งออกย่อยมาอีกดังนี้
- USB 3.2 Gen 1×1 มีความเร็วสูงสุดที่ 5Gbps ใช้ได้กับ USB Type-A,Type-C และ Micro USB
- USB 3.2 Gen 1×2 มีความเร็วสูงสุดที่ 10 Gbps พบบน USB-C เท่านั้น
- USB 3.2 Gen 2×1 มีความเร็วสูงสุดที่ 10 Gbps ใช้ได้กับ USB Type-A,Type-C และ Micro USB
- USB 3.2 Gen 2×2 มีความเร็วสูงสุดที่ 20 Gbps พบบน USB-C เท่านั้นและเป็นพอร์ตมาตรฐานที่ใช้อย่างแพร่หลายเพราะสามารถส่งสัญญาณภาพ เสียง และถ่ายโอนข้อมูลได้อย่างรวดเร็วในพอร์ตเดียว และชาร์จไฟให้กับอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆได้ในเวลาเดียวกัน
- USB 4 เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ได้กับหัวเสียบ USB-C และ/หรือ Thunderbolt เท่านั้นและมีความเร็วสูงสุดที่ 40 Gbps
- USB 4 v2 เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ได้กับหัวเสียบ USB-C และ/หรือ Thunderbolt มีความเร็วสูงสุดที่ 80 Gbps
แน่นอนว่า ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลที่รู้ไว้เพื่อเป็นพื้นฐานในการทำความเข้าใจเวลาที่ได้ซื้ออุปกรณ์ที่มีช่องเชื่อมต่อ สมาร์ทโฟนหรือสาย USB รูปแบบต่างๆว่า พอร์ตนั้นๆเป็นแบบใด
โดยทั่วไปแล้วแนะนำให้ดูว่า USB นั้นเป็น Type อะไร และต่อมาให้หาบนคู่มือหรือฉลากว่าสามารถถ่ายโอนข้อมูลในความเร็วเท่าไหร่และจ่ายไฟสูงสุดเท่าไหร่ ถ้าหากทราบข้อมูลทั้ง 3 ข้อนี้แล้วจะช่วยลดปัญหาว่าทำไมเวลาเชื่อมต่อถ่ายโอนข้อมูลด้วย USB Type-A ไม่แตกต่างจาก USB Type-C หรือในบางครั้งใช้สาย USB Type-A กลับเร็วกว่า USB Type-C อาจจะเป็นเพราะความแตกต่างของเวอร์ชั่นของพอร์ตนั้นๆก็เป็นได้ ซึ่งความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลนั้นจะเต็มประสิทธิภาพได้ก็ต่อเมื่ออุปกรณ์ต้นทาง Port สายส่งข้อมูลและอุปกรณ์ปลายทาง ต้องเป็นเวอร์ชั่น USB เดียวกันว่าเป็น USB 3.1 หรือ USB 3.1 Gen อะไรมากกว่ารูปแบบ Type ของ USB หากไม่เป็นเช่นกัน ความเร็วสูงสุดจะยึดตามอุปกรณ์ที่มีความเร็วที่ต่ำที่สุดแทน
หวังว่าทุกท่านจะได้รับความรู้ในครั้งนี้และเข้าใจในข้อแตกต่างของ USB แต่ละรูปแบบ แต่ละเวอร์ชั่นได้ในระดับเบื้องต้น ในตอนต่อไปจะเป็นการพูดถึงการจ่ายไฟ ซึ่งเป็นอีกความสามารถของ USB ที่สามารถทำได้และสร้างความเข้าใจผิดในการเลือกซื้อ รวมถึงการนำสายชาร์จที่สามารถจ่ายไฟสูงกว่าสเปครองรับของสมาร์ทไฟนั้นทำได้หรือไม่ ไว้ติดตามในบทความต่อไป
ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการใช้เทคโนโลยี
ข้อมูลเพิ่มเติม